เสียงเพลงพัฒนาสมอง ช่วง
วัยเด็กเป็นวัยแห่งความสนุกสนาน ตื่นเต้น และท้าทายของเด็กๆ ทุกๆ ย่างก้าวคือ
ประสบการณ์ใหม่ที่เจ้าตัวน้อยจะได้เรียนรู้
ในช่วงวัยเด็กนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่จะวางรากฐานทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์
และจิตใจที่ดีให้กับลูกน้อย
ฉะนั้นการที่จะให้เจ้าตัวเล็กได้สัมผัสกับท่วงทำนองอันไพเราะของเพลงยิ่ง
เร็วเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเกิดผลดีต่อเจ้าตัวเล็กเอง คุณพ่อ
คุณแม่อาจจะเริ่มต้นด้วยการใช้อุปกรณ์ในบ้านง่ายๆ มาทำให้เกิดเสียงเพลง
หลังจากนั้นก็ค่อยๆ พัฒนามาเป็นเครื่องดนตรีจริงๆ
หรือแม้แต่จะพาน้องเข้าเรียนวิชาดนตรีเป็นเรื่องเป็นราวก็ย่อมได้
มี
การวิจัยออกมาอย่างมากมายเกี่ยวกับผลดีของดนตรี
ที่ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพทางด้านความคิดและอารมณ์ของเจ้าตัวน้อย
ดนตรีนั้นจะช่วยส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ โดยเฉพาะทักษะการอ่าน และวิชาคณิตศาสตร์
คณะวิจัยได้แบ่งเด็กออกเป็น 2 กลุ่มคือ เด็กๆ ที่เรียนดนตรี
และกลุ่มที่เรียนคอมพิวเตอร์ จากนั้นได้มีการทำแบบทดสอบ ซึ่งผลออกมาว่าเด็กๆ
ที่ได้เรียนดนตรีจะมีคะแนนดีกว่าในทุกๆ ด้าน
หนึ่งในคณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า
ดนตรีมีผลต่อการจัดระเบียบทางความคิด
ซึ่งคอมพิวเตอร์นั้นไม่ได้เตรียมตัวเด็กให้มีการวางแผน
ในขณะที่สิ่งเหล่านี้มีความจำเป็นอย่างมากในการเล่นดนตรี
จาก
การค้นคว้ายังระบุว่ามีความสัมพันธ์เกี่ยวกับดนตรีส่งผลให้ความสามารถในด้าน ต่างๆ
ของเจ้าตัวเล็กดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ทักษะการอ่าน ความเข้าใจ ตัวสะกด คณิตศาสตร์
ทักษะการฟัง การใช้สมองส่วนหน้า ( เช่น ถ้อยคำพูด ความเข้าใจ ความชำนาญด้านตัวเลข )
และทักษะด้านกล้ามเนื้อ
ยัง
มีการศึกษาอีกว่าเด็กทารกสามารถได้ยินเสียงตั้งแต่ยังอยู่ในท้องแม่
ซึ่งในบางกรณีเสียงเพลงสามารถช่วยให้สมองพัฒนาในอัตราที่เร็วกว่าปกติ
ไม่ว่าจะเป็นเพลงกล่อมเด็กที่คุณแม่จะเป็นคนร้องเพลงให้เจ้าตัวเล็กฟังเอง เอง
หรือแม้แต่จะเปิดเทปให้ลูกน้อยฟังตั้งแต่ช่วงเดือนแรกๆ ระหว่างตั้งครรภ์
จะส่งผลดีต่อพัฒนาการของเจ้าตัวเล็ก
การเลือกดนตรีให้ลูกน้อย เมื่อ
เจ้าตัวเล็กอายุประมาณ 3 ขวบ เค้าจะเริ่มสนใจในเสียงเพลง
ดังนั้นช่วงเวลานี้จึงเหมาะแก่คุณพ่อ คุณแม่ที่จะจัดหากิจกรรมเข้าจังหวะสนุกๆ
ที่ลูกน้อยได้ใช้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ อาจจะเป็นการปรบมือ โบกมือ กระโดด หรือเต้น
และร้องเพลงเพื่อเพิ่มสีสัน
สำหรับเจ้า
ตัวน้อยที่อยู่ในวัย 4 – 5 ขวบจะรู้สึกสนุกถ้าเค้าได้เป็นนักดนตรีเอง
ในช่วงวัยนี้เค้าจะเริ่มเข้าใจเนื้อเพลง การที่คุณพ่อ
คุณแม่ให้ลูกน้อยได้ฟังเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับบทเรียนต่างๆ ก็จะเป็นผลดีกับเด็กๆ
อย่างมากเลยค่ะ การทำเสียงดนตรีประกอบเพลง หรือการเรียนรู้ที่จะแต่งเนื้อเพลง
หรือกิจกรรมประกอบเพลงต่างๆ ก็จะทำให้เจ้าตัวเล็กสนุก
และเพลิดเพลินกับเสียงเพลงมากขึ้นด้วยค่ะ
เมื่อ ลูกน้อยอายุ 6 – 10
ขวบ เค้าสามารถเริ่มที่จะเรียนรู้โครงสร้างของดนตรี และ การสัมผัสเสียงของเนื้อร้อง
การที่คุณพ่อ คุณแม่เปิดเพลงให้น้องฟังบ่อยๆ
จะช่วยให้ทักษะการพูดและการอ่านของลูกน้อยพัฒนาในทางที่ดีขึ้น
ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการพาเด็กๆ ไปเข้าเรียนดนตรี
หรือเรียนร้องเพลง ในรายงานการวิจัยยังบอกอีกว่าในช่วงอายุนี้คุณพ่อ
คุณแม่สามารถเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง หรือพัฒนาการต่างๆ
ของลูกน้อยที่มีผลมาจากเสียงเพลงที่คุณพ่อคุณแม่ เปิดให้ฟังมาตั้งแต่เด็กๆ
ได้ดีที่สุด
ดนตรีกับการพัฒนาทักษะในด้านต่างๆ นอก
เหนือไปจากจินตนาการ ความสร้างสรร และเสียงเพลงที่เด็กๆ ได้เรียนรู้แล้ว
ดนตรียังช่วยพัฒนาทักษะต่างๆ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อตัวเด็กๆ
ในการวางรากฐานที่ดีสำหรับการใช้ชีวิตของเจ้าตัวเล็กในอนาคตข้างหน้า
เรามาดูกันดีกว่าว่าดนตรีพัฒนาทักษะในด้านใดบ้าง
การมีสมาธิ การ
ที่เจ้าตัวน้อยสนใจ เอาใจจดจ่อกับกิจกรรมเข้าจังหวะ
หรือเครื่องดนตรีชนิดใดชนิดหนึ่งเป็นเวลานานๆ
แสดงว่าเจ้าตัวเล็กมีสมาธิในการทำกิจกรรมนั้นๆ
ซึ่งจะส่งผลดีต่อตัวเค้าเองเวลาที่ต้องตั้งใจเรียนหนังสือที่โรงเรียน |
การทำงานของประสาทส่วนต่างๆ
อย่างพร้อมเพรียงกัน การ
ฝึกดนตรีจะช่วยพัฒนาลูกน้อยในด้านความสัมพันธ์ของการใช้มือและตาในเวลา พร้อมๆ กัน
นอกจากนี้ยังเป็นการฝึกกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ซึ่งเหมือนกับที่เด็กๆ
จะได้รับเวลาที่เค้าเล่นกีฬา
การผ่อนคลาย นัก
วิจัยหลายคนพบว่าดนตรีบางประเภทสามารถช่วยให้คนเราเกิดความรู้สึกผ่อนคลาย
และยังช่วยในเรื่องของความดันโลหิต และอัตราการเต้นของหัวใจอีกด้วย
ความอดทน
และความมีมานะอุตสาหะ ใน การเรียนดนตรีแต่ละประเภท เด็กๆ
จะต้องใช้เวลาฝึกฝน ตรงนี้เองเจ้าตัวเล็กจะได้ฝึกทั้งความอดทนและความมีมานะบากบั่น
ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ดีที่ติดตัวลูกน้อยไป
และเค้าเองสามารถจะฝ่าฝันอุปสรรคต่างๆ ที่เค้าจะเจอะเจอในอนาคตได้
ความมั่นใจในตนเอง การ
ที่คุณพ่อ คุณแม่ หรือคุณครูให้กำลังใจ หรือชื่นชมผลงานของเจ้าตัวเล็ก
จะทำให้เค้าเกิดความภาคภูมิใจว่าเค้าเองก็สามารถทำได้
ทำให้เจ้าตัวเล็กมีความมั่นใจในตัวเอง
ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องไปถึงความกล้าแสดงออกของลูกน้อยด้วยค่ะ
คง
จะทราบกันแล้วนะคะว่าดนตรีมีผลดี และเสริมทักษะให้กับลูกน้อยอย่างไร คุณพ่อ
คุณแม่อาจจะเริ่มพาลูกน้อยมาสัมผัส และทำความคุ้นเคยกับเสียงดนตรี
เพื่อที่จะได้เป็นการเสริมสร้างพัฒนาการกับลูกน้อยไม่ว่าจะเป็นความเข้าใจ ทางภาษา
ปูพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ การมีสมาธิ ความอดทน และอีกหลายๆ ด้าน
การปลูกฝังให้เจ้าตัวน้อยรักเสียงเพลงตั้งแต่ยังเล็ก
ถือเป็นการปูพื้นฐานที่ดีสำหรับลูกน้อยที่น่ารักนะคะ
กิจกรรมดนตรี
ช่วยพัฒนาการทางสมองดี มีสมาธิ ผ่อนคลาย และเรียนรู้ที่ดีในเรื่องของภาษา ท่วงทำนอง
และจังหวะต่าง ๆ ไปพร้อมกัน เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนา EQ และ IQ
ไปพร้อมกัน
กิจกรรมการออกกำลังกาย
คลาน เดิน ไต่ ปีนป่าย มุด ลอด ทำให้ลูกมีความสนุกสนาน
สามารถควบคุมการใช้มือและเท้าได้ดี มีความคล่องแคล่ว ว่องไว ร่างกายแข็งแรง
ส่งผลต่อการพัฒนาการด้านอื่น ๆ เช่น อารมณ์ สังคม จิตใจ
และสติปัญาที่ดีตามมาด้วย |