หน้าหลัก |  สนทนา พ่อ แม่ ลูก |  เล่าเรื่องสมัยเรียนอนุบาล |  ติดต่อลงโฆษณา |  ติดต่อ Anubarn.com  
 
 
ประเภท
ถนน
จังหวัด
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 





 
Atom Nursery
x
ประเภท
Nursery
ที่ตั้งโรงเรียน
933/149 หมู่บ้านพิมพ์ทอง   ลาดพร้าว 101 แยก 35   ลาดพร้าว   แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์   เขตวังทองหลาง   กรุงเทพมหานคร
เบอร์โทร
089-895-5895, 02-731-5859
เบอร์แฟ็กซ์
อีเมลล์
atomnursery@gmail.com
เว็บไซด์
http://www.atomnursery.com
 
ความเป็นมา

เมื่อไหร่ที่ลูกต้องเข้า เนอสเซอรี่ ?

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกเราถึงเวลาเข้าเนอสเซอรี่แล้ว การพิจารณาขึ้นอยู่กับเหตุผล และความจำเป็นของคุณพ่อคุณแม่ว่ามีเวลาหรือความพร้อมในการเลี้ยงลูกมากเพียงใด อันเนื่องมาจากสภาพการทำงานในปัจจุบันคุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานมากขึ้น เพื่อไม่ค่อยมีเวลาในการเลี้ยงลูก ทำให้ฝึกทักษะและพัฒนาการของลูกด้อยลงไป ช่วยลดภาระของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องทำงานและไม่มีใครช่วยดูแลลูกของท่าน ก็สามารถฝากเลี้ยงกับเนอสเซอรี่ได้ ตั้งแต่อายุ 3 เดือน


ทำไมต้อง Atom Nursery ?

เนอสเซอรี่ส่วนใหญ่จะมีการเปิดสอนเด็กในชั้นอนุบาลควบคู่กันไปเพื่อความสะดวกของคุณพ่อคุณแม่ เนอสเซอรี่เปรียบได้กับ สถานที่เตรียมความพร้อมให้กับเด็กลูกของคุณ ก่อนก้าวสู่ชั้นอนุบาล เนอสเซอรี่บางแห่งมีการจัดกิจกรรมให้เด็กเล็กๆ เตรียมความพร้อม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อด้านพัฒนาการของลูกคุณได้เป็นอย่างดี
อะตอมเนอสเซอรี่ เป็นสถานรับเลี้ยงและพัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนเปิดสอนเด็กก่อนก้าวเข้าสู่ชั้นอนุบาล สามารถให้บริการดูแลเด็กตามช่วงอายุได้อย่างเหมาะสม สามารถสร้างพัฒนาการเด็กให้เหมาะสมกับวัย เรามีบุคลาการที่มีความสามารถและเพียงพอในการดูแลลูกของท่านได้อย่างทั่วถึงตามหลักการเนอสเซอรี่ด้วยเหตุนี้คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ จึงนิยมส่งลูกเรียนที่ อะตอม เนอสเซอรี่เพื่อพัฒนาความพร้อมตั้งแต่อายุ3 เดือน ไปจนถึงอายุ 6 ขวบ

เตรียมสู่โลกกว้างกับ Atom Nursery

ช่วงวัย 2-3 ขวบ วัยของการเรียนรู้และเตรียมตัวสู่โรงเรียน รู้จักกับเพื่อนใหม่ กจกรรมสร้างสรรค์ วัยนี้จึงต้องการการสนับสนุนความพร้อม ทั้งร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ด้วยทีมงานที่มีความสามารถ มากประสบการณ์ ด้วยบรรยากาศที่สนุกสนาน อบอุ่น เป็นกันเอง ด้วยเครื่องเล่นเพื่อการเรียนรู้ตามวัย

อะตอม เนอสเซอรี่ สถานรับเลี้ยงและพัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานหลักการเนอสเซอรี่ ด้วยทีมงานที่มีความรู้ ความสามารถ เราเน้นพัฒนาการ ทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม (EQ) สติปัญญา (IQ) และความฉลาดทางจริยธรรม (MQ) ควบคู่กันไปอย่างเหมาะสมตามควรวัยเด็ก ช่วยให้เด็กเติบโตอย่าง มีคุณภาพ ด้วยสภาพแวดล้อมที่ถูกสุขอนามัยบรรยากาศอบอุ่น และธรรมชาติที่สวยงาม มีสนามกลางแจ้งและเครื่องเล่นที่มีความปลอดภัย มีรั้วรอบขอบชิด เดินทางสะดวก และมีการบริการที่ดี

เด็ก ๆ จะได้อะไรจาก Atom Nursery

1. ทักษะ กระบวนการเรียนรู้และพัฒนาการที่ครอบคลุมตามอายุของเด็ก รวมไปถึงการสอนให้เด็กรู้จักควบคุมตัวเอง ฝึกให้เด็กรู้จัก อดใจไว้แต่ไม่เอาแต่ใจตัวเอง
2. การส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ที่เป็นพื้นฐานศักยภาพเด็กรายบุคคลตาม พัฒนาการตามความคิดและปัญญา
3. การสร้างคุณธรรม ยึดเด็กเป็นสำคัญ โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล และวิถีชีวิตของชาวพุทธ ตาม สังคม และ วัฒนธรรมไทย
4. พัฒนาเด็กโดยองค์รวมผ่านการเล่น และกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัย
5. จัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้สามารถดำรงชีวิตประจำวันได้อย่างมีคุณภาพและมีความสุข
6. จัดกิจกรรม ให้โอกาสผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการพัฒนาการของเด็ก เพื่อให้ผู้ปกครองมีความเข้าใจและสามารถนำแนวคิดมาอบรมการเลี้ยงดูลูกที่บ้านและพัฒนาอย่างสอดคล้องกับที่โรงเรียน เพื่อการพัฒนาการก้าวไปอีกขั้นทางความคิดและสติปัญญาที่ดีของเด็ก

 

หลักสูตรและแนวการสอน

เสียงเพลงพัฒนาสมอง
ช่วง วัยเด็กเป็นวัยแห่งความสนุกสนาน ตื่นเต้น และท้าทายของเด็กๆ ทุกๆ ย่างก้าวคือ ประสบการณ์ใหม่ที่เจ้าตัวน้อยจะได้เรียนรู้ ในช่วงวัยเด็กนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่จะวางรากฐานทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ และจิตใจที่ดีให้กับลูกน้อย ฉะนั้นการที่จะให้เจ้าตัวเล็กได้สัมผัสกับท่วงทำนองอันไพเราะของเพลงยิ่ง เร็วเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเกิดผลดีต่อเจ้าตัวเล็กเอง คุณพ่อ คุณแม่อาจจะเริ่มต้นด้วยการใช้อุปกรณ์ในบ้านง่ายๆ มาทำให้เกิดเสียงเพลง หลังจากนั้นก็ค่อยๆ พัฒนามาเป็นเครื่องดนตรีจริงๆ หรือแม้แต่จะพาน้องเข้าเรียนวิชาดนตรีเป็นเรื่องเป็นราวก็ย่อมได้

มี การวิจัยออกมาอย่างมากมายเกี่ยวกับผลดีของดนตรี ที่ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพทางด้านความคิดและอารมณ์ของเจ้าตัวน้อย ดนตรีนั้นจะช่วยส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ โดยเฉพาะทักษะการอ่าน และวิชาคณิตศาสตร์ คณะวิจัยได้แบ่งเด็กออกเป็น 2 กลุ่มคือ เด็กๆ ที่เรียนดนตรี และกลุ่มที่เรียนคอมพิวเตอร์ จากนั้นได้มีการทำแบบทดสอบ ซึ่งผลออกมาว่าเด็กๆ ที่ได้เรียนดนตรีจะมีคะแนนดีกว่าในทุกๆ ด้าน หนึ่งในคณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า ดนตรีมีผลต่อการจัดระเบียบทางความคิด ซึ่งคอมพิวเตอร์นั้นไม่ได้เตรียมตัวเด็กให้มีการวางแผน ในขณะที่สิ่งเหล่านี้มีความจำเป็นอย่างมากในการเล่นดนตรี


จาก การค้นคว้ายังระบุว่ามีความสัมพันธ์เกี่ยวกับดนตรีส่งผลให้ความสามารถในด้าน ต่างๆ ของเจ้าตัวเล็กดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ทักษะการอ่าน ความเข้าใจ ตัวสะกด คณิตศาสตร์ ทักษะการฟัง การใช้สมองส่วนหน้า ( เช่น ถ้อยคำพูด ความเข้าใจ ความชำนาญด้านตัวเลข ) และทักษะด้านกล้ามเนื้อ

ยัง มีการศึกษาอีกว่าเด็กทารกสามารถได้ยินเสียงตั้งแต่ยังอยู่ในท้องแม่ ซึ่งในบางกรณีเสียงเพลงสามารถช่วยให้สมองพัฒนาในอัตราที่เร็วกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นเพลงกล่อมเด็กที่คุณแม่จะเป็นคนร้องเพลงให้เจ้าตัวเล็กฟังเอง เอง หรือแม้แต่จะเปิดเทปให้ลูกน้อยฟังตั้งแต่ช่วงเดือนแรกๆ ระหว่างตั้งครรภ์ จะส่งผลดีต่อพัฒนาการของเจ้าตัวเล็ก

การเลือกดนตรีให้ลูกน้อย
เมื่อ เจ้าตัวเล็กอายุประมาณ 3 ขวบ เค้าจะเริ่มสนใจในเสียงเพลง ดังนั้นช่วงเวลานี้จึงเหมาะแก่คุณพ่อ คุณแม่ที่จะจัดหากิจกรรมเข้าจังหวะสนุกๆ ที่ลูกน้อยได้ใช้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ อาจจะเป็นการปรบมือ โบกมือ กระโดด หรือเต้น และร้องเพลงเพื่อเพิ่มสีสัน

สำหรับเจ้า ตัวน้อยที่อยู่ในวัย 4 – 5 ขวบจะรู้สึกสนุกถ้าเค้าได้เป็นนักดนตรีเอง ในช่วงวัยนี้เค้าจะเริ่มเข้าใจเนื้อเพลง การที่คุณพ่อ คุณแม่ให้ลูกน้อยได้ฟังเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับบทเรียนต่างๆ ก็จะเป็นผลดีกับเด็กๆ อย่างมากเลยค่ะ การทำเสียงดนตรีประกอบเพลง หรือการเรียนรู้ที่จะแต่งเนื้อเพลง หรือกิจกรรมประกอบเพลงต่างๆ ก็จะทำให้เจ้าตัวเล็กสนุก และเพลิดเพลินกับเสียงเพลงมากขึ้นด้วยค่ะ

เมื่อ ลูกน้อยอายุ 6 – 10 ขวบ เค้าสามารถเริ่มที่จะเรียนรู้โครงสร้างของดนตรี และ การสัมผัสเสียงของเนื้อร้อง การที่คุณพ่อ คุณแม่เปิดเพลงให้น้องฟังบ่อยๆ จะช่วยให้ทักษะการพูดและการอ่านของลูกน้อยพัฒนาในทางที่ดีขึ้น ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการพาเด็กๆ ไปเข้าเรียนดนตรี หรือเรียนร้องเพลง ในรายงานการวิจัยยังบอกอีกว่าในช่วงอายุนี้คุณพ่อ คุณแม่สามารถเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง หรือพัฒนาการต่างๆ ของลูกน้อยที่มีผลมาจากเสียงเพลงที่คุณพ่อคุณแม่ เปิดให้ฟังมาตั้งแต่เด็กๆ ได้ดีที่สุด

ดนตรีกับการพัฒนาทักษะในด้านต่างๆ
นอก เหนือไปจากจินตนาการ ความสร้างสรร และเสียงเพลงที่เด็กๆ ได้เรียนรู้แล้ว ดนตรียังช่วยพัฒนาทักษะต่างๆ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อตัวเด็กๆ ในการวางรากฐานที่ดีสำหรับการใช้ชีวิตของเจ้าตัวเล็กในอนาคตข้างหน้า เรามาดูกันดีกว่าว่าดนตรีพัฒนาทักษะในด้านใดบ้าง

การมีสมาธิ
การ ที่เจ้าตัวน้อยสนใจ เอาใจจดจ่อกับกิจกรรมเข้าจังหวะ หรือเครื่องดนตรีชนิดใดชนิดหนึ่งเป็นเวลานานๆ แสดงว่าเจ้าตัวเล็กมีสมาธิในการทำกิจกรรมนั้นๆ ซึ่งจะส่งผลดีต่อตัวเค้าเองเวลาที่ต้องตั้งใจเรียนหนังสือที่โรงเรียน |


การทำงานของประสาทส่วนต่างๆ อย่างพร้อมเพรียงกัน
การ ฝึกดนตรีจะช่วยพัฒนาลูกน้อยในด้านความสัมพันธ์ของการใช้มือและตาในเวลา พร้อมๆ กัน นอกจากนี้ยังเป็นการฝึกกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ซึ่งเหมือนกับที่เด็กๆ จะได้รับเวลาที่เค้าเล่นกีฬา

การผ่อนคลาย
นัก วิจัยหลายคนพบว่าดนตรีบางประเภทสามารถช่วยให้คนเราเกิดความรู้สึกผ่อนคลาย และยังช่วยในเรื่องของความดันโลหิต และอัตราการเต้นของหัวใจอีกด้วย

ความอดทน และความมีมานะอุตสาหะ
ใน การเรียนดนตรีแต่ละประเภท เด็กๆ จะต้องใช้เวลาฝึกฝน ตรงนี้เองเจ้าตัวเล็กจะได้ฝึกทั้งความอดทนและความมีมานะบากบั่น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ดีที่ติดตัวลูกน้อยไป และเค้าเองสามารถจะฝ่าฝันอุปสรรคต่างๆ ที่เค้าจะเจอะเจอในอนาคตได้

ความมั่นใจในตนเอง
การ ที่คุณพ่อ คุณแม่ หรือคุณครูให้กำลังใจ หรือชื่นชมผลงานของเจ้าตัวเล็ก จะทำให้เค้าเกิดความภาคภูมิใจว่าเค้าเองก็สามารถทำได้ ทำให้เจ้าตัวเล็กมีความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องไปถึงความกล้าแสดงออกของลูกน้อยด้วยค่ะ

คง จะทราบกันแล้วนะคะว่าดนตรีมีผลดี และเสริมทักษะให้กับลูกน้อยอย่างไร คุณพ่อ คุณแม่อาจจะเริ่มพาลูกน้อยมาสัมผัส และทำความคุ้นเคยกับเสียงดนตรี เพื่อที่จะได้เป็นการเสริมสร้างพัฒนาการกับลูกน้อยไม่ว่าจะเป็นความเข้าใจ ทางภาษา ปูพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ การมีสมาธิ ความอดทน และอีกหลายๆ ด้าน การปลูกฝังให้เจ้าตัวน้อยรักเสียงเพลงตั้งแต่ยังเล็ก ถือเป็นการปูพื้นฐานที่ดีสำหรับลูกน้อยที่น่ารักนะคะ


กิจกรรมดนตรี ช่วยพัฒนาการทางสมองดี มีสมาธิ ผ่อนคลาย และเรียนรู้ที่ดีในเรื่องของภาษา ท่วงทำนอง และจังหวะต่าง ๆ ไปพร้อมกัน เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนา EQ และ IQ ไปพร้อมกัน


กิจกรรมการออกกำลังกาย คลาน เดิน ไต่ ปีนป่าย มุด ลอด ทำให้ลูกมีความสนุกสนาน สามารถควบคุมการใช้มือและเท้าได้ดี มีความคล่องแคล่ว ว่องไว ร่างกายแข็งแรง ส่งผลต่อการพัฒนาการด้านอื่น ๆ เช่น อารมณ์ สังคม จิตใจ และสติปัญาที่ดีตามมาด้วย

สถานที่ สภาพแวดล้อม

http://www.atomnursery.com/index.php/gallery

ผู้รับใบอนุญาติ
นาย วิศาล เส็งพานิช
ผู้อำนวยการ
นายศิลา เส็งพานิช
ปีที่เปิดสอน
2 มิถุนายน 2553
ระดับที่เปิดสอน
ก่อนวัยเรียน - 6 ปี (ปฐมวัย)
เด็กพิเศษเรียนรวม
จำนวนนักเรียนทั้งหมด
จำนวนครูทั้งหมด
จำนวนครูต่างชาติ
จำนวนนักเรียนต่อห้อง
จำนวนนักเรียนที่เปิดรับต่อปี
จำนวนนักเรียนต่อครู 1 คน
อัตราส่วนครู 1 : 5
อุปกรณ์การเรียนการสอน
การรับส่งนักเรียน
รับตั้งแต่อายุ
รับเด็กตั้งแต่ 3 เดือน - 6 ปี
เกณฑ์การคัดเลือก
ค่าเล่าเรียนต่อภาคเรียน

http://www.atomnursery.com/index.php/ourservice

รายการที่รวมอยู่ในค่าเรียน
เป้สะพาย, ถุงเก็บเสื้อผ้า , สมุดประจำตัวรายวัน, สมุดประจำตัวรายเดือน, สมุดผลงานประจำตัว
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ลักษณะธห้องเรียน
ติดแอร์ทุกห้อง พร้อมเครื่องฟอกอากาศ
 
 
 

ร่วมงานกับเรา

 
รับสมัครคุณครูพี่เลี้ยงเพิ่มเติมจำนวน 3 อัตรา
 
1.สำหรับครูพี่เลี้ยง *(2 อัตรา)
-ดูแลเด็ก
-ใจรักเด็ก
-มีเจตน์คติที่ดี
วุฒิการศึกษา ม.3ขึ้นไป
เวลาเข้างาน 7.00-18.00น.
ผ่านทดลองงาน 3 เดือน มีสวัสดิการให้**
 
2.สำหรับครูประถมวัย(1 อัตรา)
-ทำสื่อการสอน
-ทำแผนการสอนเป็น
-ร้องเพลงได้
-ใจรักเด็ก
-มีเจตน์คติที่ดี
 
วุฒิการศึกษา ป.ตรีขึ้นไป มีใบประกอบวิชาชีพครู
เวลาเข้างาน 7.00-18.00น.
ผ่านทดลองงาน3เดือน มีสวัสดิการให้**
 
++สนใจสมัครงาน++
สิ่งที่ต้องเตรียมมา
-สำนำทะเบียนบ้าน
-สำเนาบัตรประชาชน
-ภาพถ่าย1นิ้ว จำนวน 2ใบ
-วุฒิการศึกษา
-ใบรับรองวิชาชีพครู (ถ้ามี)
 
 
สวัสดิการ
เบี้ยขยัน, ค่าอาหาร(กรณีอยู่ประจำ), ชุดพนักงาน
รายได้พิเศษจากจำนวนเด็ก
 
เงินเดือน
9,000-12,000
 
คุณสมบัติผู้สมัคร
เพศหญิง อายุ 20 ถึง 39 ปี
วุฒิการศึกษา ปวส. ไม่จำกัด หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง
ประสบการณ์ 0-3 ปีขึ้นไป
1. รักเด็ก
2. มีความอดทน
 
 
 
 
 

 

 
 
 
   
   
   
   
     
 
 
 



ชื่อ:
อีเมลล์:
ข้อความก:
  พิมพ์คำว่า "อนุบาล" ด้วยครับ
 

 
     
 
สนใจหลักสูตรภาคปฏิบัติครูพี่เลี้ยงเด็กคะ

ความคิดเห็นโดย:  ณัชชารีย์  อีเมลล์:  liuyiannan@hotmail.com วันที่:  06/03/2017


 
 
 
 
เธ•เธดเธ”เธ•เนˆเธญ Anubarn.com
เธญเธตเน€เธกเธฅเนŒ: info@anubarn.com
Horpak4u.com
Copyright 2006 by Anubarn.com